ยินดีต้อนรับสู่การเรียนรู้ธรรมทางออนไลน์ จาก วีดีโอธรรมะออนไลน์ ที่ handmovevdo.blogspot.com/

ประวัติและปฏิปทา หลวงพ่อมหาไหล โฆสโก

ประวัติและปฏิปทา
หลวงพ่อมหาไหล โฆสโก
วัดป่าหนองคู
ต.หนองกุง อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม



พระศรีวรญาณ (หลวงพ่อมหาไหล โฆสโก) เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่อีกรูปหนึ่งของวงการสงฆ์เมืองมหาสารคาม เป็นพระสายวิปัสสนากัมมัฏฐานที่มีวัตรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเสมอต้นเสมอปลาย มีเมตตาธรรมสูง

หลวงพ่อมหาไหล มีความรู้ในทางโลกและทางธรรม เคยเป็นตัวแทนไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ต่างประเทศนานนับสิบปี ปัจจุบัน หลวงพ่อมหาไหล สิริอายุ 67 พรรษา 37 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าหนองคู ต.หนองกุง อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม

อัตโนประวัติ
มีนามเดิมว่า ไหล เพียรอดวงษ์ เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2483 ที่บ้านหนองคู ต.หนองกุง อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายสุข และนางทุม เพียรอดวงษ์

หลังจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ได้ออกมาช่วยงานครอบครัวทำไร่ทำนา เมื่ออายุย่างเข้าสู่วัยฉกรรจ์ ด้วยความที่เป็นผู้มีใจโน้มเอียงเข้าหาพระธรรม

พ.ศ.2512 ได้ตัดสินใจเข้าพิธีอุปสมบทที่วัดสุทธิวนาราม บ้านหนองขิม ต.ละหาน อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ โดยมีเจ้าอธิการสิงห์ วัดสุทธิวนาราม เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์สิมมา วัดสุทธิวนาราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์น้อย วัดบ้านหวาย เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ภายหลังอุปสมบท ท่านได้มุ่งมั่นศึกษาพระธรรมวินัย สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี ที่สำนักเรียนบ้านกันกง อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ

ต่อมา ได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดมรรคสำราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น สอบได้นักธรรมชั้นโท จากนั้นได้ย้ายไปจำพรรษาที่วัดสว่างโนนคูณ อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น สามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก และสอบได้ประโยค 1-2

พ.ศ.2516 เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อศึกษาบาลี ณ สำนักเรียนวัดหิรัญรูจีวรวิหาร

พ.ศ.2524 สามารถสอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค

หลวงพ่อมหาไหล ได้อุทิศตนรับใช้พระพุทธศาสนาอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย เป็นอาจารย์สอนธรรมบาลีและเป็นวิทยากรอบรมบาลีก่อนลงสนามสอบ ให้พระภิกษุ-สามเณร

พ.ศ.2530 ได้รับคัดเลือกจากมหาเถรสมาคม เป็นพระธรรมทูตไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา ที่วัดพระศรีรัตนาราม รัฐมิสซูรี่ สหรัฐอเมริกา ปฏิบัติหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาอยู่ต่างประเทศนาน 10 ปี กระทั่ง พ.ศ.2540 ตัดสินใจเดินทางกลับเมืองไทย จำพรรษาอยู่ที่วัดป่าหนองคู

หลวงพ่อมหาไหล ได้ใช้หลักธรรมอบรมสั่งสอนญาติโยม มุ่งเน้นการปฏิบัติเป็นหลัก ด้วยเชื่อว่าการฝึกวิปัสสนากัมมัฏฐานจะสามารถสร้างสติกำลังใจให้เกิดความเข้มแข็งได้

นอกจากนี้ หลวงพ่อยังชมชอบธรรมชาติป่าไม้ ในวันสำคัญท่านจะพาญาติโยมร่วมใจกันปลูกต้นไม้เสริมตลอด ทำให้วัดป่าแห่งนี้มีแต่ความสงบร่มรื่นเหมาะกับการปฏิบัติธรรมยิ่งนัก

หลวงพ่อเป็นพระที่เคร่งครัดพระธรรมวินัยมาก ถึงขนาดประกาศห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือคนที่อยู่ในอาการมึนเมาเข้ามาในเขตวัดโดยเด็ดขาด

ด้วยการที่หลวงพ่อมหาไหลเป็นพระที่เคร่งในพระธรรมวินัย มุ่งสั่งสอนเน้นปฏิบัติจึงทำให้ วัดป่าหนองคู มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างรวดเร็ว กลายเป็นสถานที่อบรมปฏิบัติธรรมของสถานศึกษา หน่วยงานราชการ และพุทธศาสนิกชนทั่วไป

พ.ศ.2542 วัดป่าหนองคู ได้รับการคัดเลือกจากกรมการศาสนา เป็นศูนย์พัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติประจำจังหวัดมหาสารคาม

พ.ศ.2543 จังหวัดได้มอบหมายให้วัดป่าหนองคู เป็นศูนย์ประสานงานป้องกันยาเสพติดจังหวัดมหาสารคาม และศูนย์อบรมกลุ่มเสี่ยงยาเสพติดมหาสารคาม มีการนำเยาวชนหรือผู้ที่เสพยาเสพติดเข้ามาบำบัดรักษา พัฒนาจิตใจให้เข้มแข็ง

พ.ศ.2547 ท่านได้รับพระราชทานเสาเสมาธรรมจักร ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ประเภทส่งเสริมการปฏิบัติธรรม ปี 2547 จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 พ.ค. พ.ศ.2547 เนื่องในวันวิสาขบูชา ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง

หลวงพ่อมหาไหล ยังพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับชาวบ้านที่ส่วนใหญ่มีฐานะยากจน จึงมีโครงการเพื่อชีวิตมากมาย อาทิ สนับสนุนให้ชาวบ้านใช้ปุ๋ยชีวภาพ ทำสบู่ ยาสีฟันใช้เอง ทำเกษตรปลอดสารพิษอย่างถาวร โครงการร้านค้าชุมชนมั่นคง ฝึกอบรมเกษตรเยาวชนสัมพันธ์ โครงการหมู่บ้านเปลี่ยนวิถี เป็นต้น ทำให้ชาวบ้านมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 9 มิ.ย. พ.ศ.2549 หลวงพ่อมหาไหล ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระศรีวรญาณ เป็นเพชรเม็ดงามที่ควรค่าแก่การกราบไหว้โดยแท้